
อาหารเด็ดประจำตู้เย็นของนักออกกำลังกาย
ร้อยทั้งร้อยที่ออกกำลังกายแล้วไม่ได้ผลอย่างที่ต้องการ มักมาจากการกินที่ไม่มีวินัยและเลือกกินที่ไม่ดีพอ ถึงเวลาโละของไร้ประโยชน์ออกจากครัวและตู้เย็นกันได้แล้ว แล้วใส่ของตามลิสต์นี้เข้าไป รับรองว่า ได้ผลทันตาเห็นแน่นอน
1. ผงอบเชย เป็นสมุนไพรที่ในวงการออกกำลังกายไม่ค่อยพูดถึงกันมาก เพราะเป็นส่วนผสมที่มีรสและกลิ่นเฉพาะตัว อีกทั้งใช้ในเมนู แต่มีงานวิจัยที่พบว่าผงอบเชยมีส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้เซลล์นำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานได้ดี
และมีส่วนช่วยลดการเกิดเบาหวาน โดยปกติเรามักใช้ผงอบเชยทำพะโล้ โรยในชาร้อนซึ่งจะให้รสชาติออกหวานนิดๆ หรือใช้โรยข้าวโอ๊ตต้มสุกก็อร่อยเช่นกัน
2. บรอกโคลีและผักตระกูลกะหล่ำ เช่น ดอกกะหล่ำ แขนงผัก มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงซึ่งจะต้านทานเซลล์มะเร็งได้เป็นอย่างดี แนะนำให้นำมาผัดหรือราดน้ำมันมะกอกหน่อยและอบไฟปานกลางให้นิ่มก็น่ากินไม่แพ้กัน
3. มันหวาน ไม่เพียงให้คาร์โบไฮเดรตต่ำและพลังงานที่ดีกับคนแอคทีฟ แต่ยังมีคุณค่าสูงมากมาย แต่ถ้าไม่ชอบสามารถเลือกกินแครอทและผลไม้สีเหลืองสีส้มอื่นๆ เช่นมะละกอ มะม่วง ได้เช่นกัน เพราะทั้งหมดล้วนแล้วแต่อุดมด้วยวิตามิน อาทิ วิตามินเอ วิตามินซีและแคลเซียม ทั้งยังมีเบต้าแคโรทีนสูงมาซึ่งช่วยปกป้องเซลล์ผิวหนังกับตา รวมทั้งลดการอักเสบและเพิ่มภูมิคุ้มกัน

4. อาโวคาโด เป็นผลไม้อีกชนิดที่ดีต่อคนออกกำลังกาย เพราะเต็มไปด้วยไขมันชนิดดี อีกทั้งมีโฟเลตซึ่งช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหัวใจวายได้ แนะนำให้นำมาหั่นใส่สลัด หรือบดทาขนมปังแทนการทาเนยเพื่อเพิ่มคุณค่าให้มื้ออาหารได้มากทีเดียว
5. โยเกิร์ตที่มีโปรไบโอติกส์ หรือจุลินทรีย์ที่ดีต่อลำไส้ ช่วยให้อาหารย่อยและดูดซึมได้ดี นอกจากนี้ยังมีแคลเซียมและโปรตีนที่ให้โครงสร้างของร่างกายแข็งแรงอีกด้วย เลือกโยเกิร์ตธรรมชาติที่มีโปรตีนสูงหน่อย หรือแบบกรีกโยเกิร์ตจะดีกว่า
6. ถั่วลิสง ถั่วเม็ดมะม่วง ถั่วอัลมอนด์ ถั่ววอลนัท ถั่วพิสตาชิโอ มีวิตามินอี แมกนีเซียม โปรตีน และเส้นใยอาหาร ช่วยลดกรดไขมันไม่ดี LDL ลดการอักเสบของหลอดเลือด มีสารอาหารที่ช่วยการทำงานของระบบเผาผลาญและกล้ามเนื้อ จะกินเป็นถั่วต้มง่ายๆ คั่วใส่ในส้มตำไทย กินเปล่าๆเป็นอาหารว่าง หรือกินแบบเนยถั่วธรรมชาติทาขนมปังก็อร่อย
จะเห็นว่า อาหารเหล่านี้ล้วนเป็นอาหารแสนธรรมดาที่เราสามารถหาได้ไม่ยากและควรมีติดไว้ตู้เย็นหรือห้องครัวได้เลย
เพื่อกินสลับสับเปลี่ยนหรือเสริมอาหารมื้อหลักในแต่ละวัน เพียงแค่นี้เราก็จะมีสุขภาพและร่างกายอย่างที่ต้องการแล้ว