ทำอย่างไรดีที่จะไม่รู้สึกหมดไฟในการออกกำลังกาย

โดย จอร์ช เวคเกอร์แมน วันที่ พฤหัสบดี 12 ตุลาคม 2017

5 นาที่ที่อ่าน

ให้เราคิดถึงการออกกำลังกายเหมือนความสัมพันธ์ระยะยาว ความรักที่จะก่อเกิด ไม่ใช่แค่การปิ๊งแล้วจากไป การรักษาความรักสุขภาพของคุณโดยการออกกำลังกายเป็นจุดสำคัญที่จะช่วยคุณแต่ถ้าคุณรู้สึกว่ามันหนักเกินไปและหมดไฟในช่วงนี้คุณอาจจะกำลังมีภาวะเหนื่อยล้าเกินไปจากการออกกำลังกาย

"มันเกิดอะไรแบบนี้ได้ด้วยเหรอ แน่นอนสิ่งเหล่านี้เกิดกันได้"


การหมดไฟในการออกกำลังกายอาจเกิดขึ้นได้ทั้งจากผลกระทบที่เกิดทั้งทางร่างกายหรือจิตใจ ถ้าหากคุณรู้สึกว่ามันเป็นทั้งสองแบบ คุณถึงเวลที่จะต้องเปลี่ยนแปลงแล้ว อย่าคิดว่าการหมดไฟเกิดกับคนที่ชอบออกกำลังกายอย่างหนักเท่านั้น คนที่เพิ่งเริ่มเข้ายิมอาจมีความรู้สึกแบบเดียวกันได้ ถ้าคุณได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง

ให้เรามาเริ่มแก้ปัญหากันดีกว่าแต่อย่าให้หักโหมจนเกินไปถ้าคุณยังรู้สึกเจ็บอยู่

อะไรเป็นจุดสังเกตุว่าคุณกำลังหมดไฟ?


เมื่อใจคุณคิดว่าพอแล้ว :
เราทุกคนมีความรู้สึกแบบเดียวกัน การออกกำลังกายแบบเดิมๆ ทุกๆ สัปดาห์ ทำให้เราเบื่อได้ง่ายๆ


คุณรู้สึกว่าคุณตามเกมส์ไม่ทัน :
เป็นเรื่องง่ายที่จะรู้สึกว่าคุณพอแล้ว แต่เราอาจไม่ได้สังเกตุว่าร่างกายของเราเองนั่นแหละที่ไปต่อไม่ไหว อะไรที่จะช่วยสังเกตุได้ว่าร่างกายของเรากำลังไปต่อไม่ไหว

  • ไม่สามารถออกกำลังกายแบบที่เคย
  • ปวดเมื่อยหรือเจ็บอย่างต่อเนื่องหรือเหนื่อยง่าย
  • ป่วยบ่อย
  • รู้สึกหดหู่
  • หลับยากหรือหลับไม่สนิท

แล้วอะไรจะช่วยเราให้เอาชนะความหมดไฟในการออกกำลังกาย?

อย่างแรกและสำคัญมากคือการป้องกันการหมดไฟดีกว่าการไม่พัฒนา อย่างที่สองอย่าพยายามเอาชนะตัวเองจนเกินไป เราต้องไม่หักโหม  

เคล็ดลับต่างๆ เหล่านี้จะช่วยคุณให้เอาชนะการหมดไฟและทำให้คุณรู้สึกสดชื่นขึ้น


ฟื้นฟูตัวเอง 


พักผ่อน :
คุณอาจจะคิดว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่สำคัญแต่หลายๆ คนเข้าใจเรื่องนี้ผิดไป อธิบายง่ายๆ คือการออกกำลังกายเป็นการทำให้ร่างกายเกิดความเครียดและร่างกายของคุณก็ต้องการพักและฟื้นฟู ถ้าหากคุณไม่พักและพยายามออกกำลังต่อไป คุณกำลังทำให้ความเครียดสะสมและมากขึ้น

การไม่พักร่างกายอย่างเพียงพอจะไม่ทำให้คุณแข็งแรงขึ้น การออกกำลังอย่างหักโหมจะทำให้กล้ามเนื้อและร่างกายบาดเจ็บ 


เคลื่อนไหวเสมอ :
ฮืมมม เรากำลังพูดเรื่องตรงข้ามกับข้อแรกเลยแต่ไม่เลย ไม่ใช่แบบที่คุณคิด เรากำลังพูดถึงการเคลื่อนไหวแบบที่คุณยังสามารถฟื้นฟูร่างกายของคุณได้ถ้าเราพูดถึงการพักผ่อน เรากำลังคิดถึงการนอนเล่นดูทีวีบนโซฟาและไม่ทำอะไรเลย แต่นั่นไม่ใช่การฟื้นฟูร่างกายอย่างถูกวิธี การวิจัยได้ระบุว่าการออกกำลังกายแบบเบาๆ สามารถช่วยให้ร่างกายและจิตใจของคุณดีขึ้น

เราแนะนำการออกกำลังกายแบบฟื้นฟูตัวเองโดยการเล่นโยคะแต่นั่นไม่ใช่ทางเดียวที่เราจะทำได้ เปลี่ยนจากการเข้ายิมไปปั่นจักรยานด้านนอกหรือการเดินบ้างก็สามารถช่วยพักร่างกายและจิตใจของคุณได้เช่นเดียวกัน ลองไปหากิจกรรมด้านนอกทำในช่วงสุดสัปดาห์ก็ดีเช่นกัน


ทำให้น่าสนใจ


เปลี่ยนตารางของคุณ :
เป็นเรื่องง่ายที่เราจะรู้สึกเบื่ออะไรได้ง่ายๆ และสิ่งนี้ก็ไม่ได้แปลกอะไร แต่ร่างกายของเราเองก็เบื่อการทำอะไรซ้ำๆ ได้เช่นเดียวกัน เทรนเนอร์ผู้เชี่ยวชาญสามารถแนะนำคุณได้ว่าร่างกายของเราสามารถออกกำลังกายแบบเดิมๆ ได้ไม่เกิน 4-6 สัปดาห์ นักกีฬาเองยังต้องมีตารางการออกกำลังกายที่หลากหลาย

การเปลี่ยนตารางการออกกำลังกายช่วยให้จิตใจของคุณดีขึ้นและยังช่วยให้ร่างกายของคุณไม่ต้องทำอะไรแบบจำเจด้วย


การรักษาความสมดุลเป็นเรื่องสำคัญ :
การรักษาสมดุลเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องทำเดี๋ยวนี้ การรักษาสมดุลที่ดีเกี่ยวกับชนิดหรือวิธีการออกกำลังกายและตารางการออกกำลังกายของคุณทำให้คุณคงความสนใจของคุณได้มากและยาวนานขึ้น

การทำอะไรซ้ำๆ เป็นเรื่องที่ดี แต่คุณไม่ใช่หุ่นยนต์ อย่างควดหวังว่าร่างกายของคุณจะทำตามตารางที่คุณวางไปแบบเดิมๆ ตลอดไป

การหมดไฟไม่ใช่เรื่องที่จะรับมือได้ง่าย ถ้าเป็นได้การป้องกันไม่ให้สิ่งนี้เกิดขึ้นจะดีกว่า ถ้าหากคุณรู้สึกว่าการออกกำลังกายของคุณเริ่มไม่เป็นตามที่ตั้งใจไว้ ถึงเวลาที่เราจะต้องมาคุยกันและหาวิธีที่จะแก้ไขให้ดีขึ้น

บทความที่เกี่ยวข้อง

ขยับเคลื่อนไหว

5 นาที่ที่อ่าน

การออกกำลังกายด้วย band workouts ทั้ง 10 แบบ

ขยับเคลื่อนไหว

4 นาที่ที่อ่าน

ทำไมพิลาทิส รีฟอร์เมอร์ ถึงได้รับความนิยม?

ผ่อนคลาย

3 นาที่ที่อ่าน

ท่าโยคะหลังการนั่งมาเป็นเวลานาน

ชอบบทความของเรามั้ย?

ลงทะเบียนเพื่อรับการแจ้งทางอีเมลเมื่อมีบทความใหม่